ในหนึ่งวันของทุกคนมี 24 ชั่วโมง หากเราลองสังเกตกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ตื่นนอนของเราจะเห็นได้เลยว่า เราอุปโภคบริโภคทรัพยากรธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา เช่น การปรุงอาหาร การเปิดไฟ การชาร์จแบตมือถือ การขนส่ง ฯลฯ ซึ่งการกระทำเหล่านี้เองล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) ที่ส่งผลเสียต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ฤดูที่ผิดแปลก การเกิด ภัยพิบัติที่ถี่ขึ้นและรุนแรงมากขึ้น สภาพภูมิอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัด เป็นต้น
"ด้วยหลักการการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง การกินผลิตภัณฑ์เกี๊ยวกุ้ง ตราซีพี ขนาด 145 กรัม ของเรา 1 ถ้วย จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่ากับ การช่วยปิดไฟถึง 14 ดวง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง"
ด้วยเหตุนี้เองทำให้เริ่มมีการตื่นตัวของกระแสรักษ์โลกของคนในปัจจุบัน ไม่เว้นแม้แต่ภาคอุตสาหกรรมที่หันมาใส่ใจในการใช้ทรัพยากรและดูแลสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน โดยในส่วนของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารก็มีบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ที่มีนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นครัวของโลก จึงได้มีการใส่แนวคิดความยั่งยืนลงไปในทุกขั้นตอนการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ตราซีพี ด้วยหลักการการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในผลิตภัณฑ์อาหารที่ถูกพัฒนาตามแนวคิดความยั่งยืนนั้นคือ “ผลิตภัณฑ์เกี๊ยวกุ้ง ตราซีพี” ที่มีการใส่ใจทุกกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chained) จนออกมาเป็นอาหารและย่อยสลายไป โดยใช้การคำนวณตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (LCA) และรับรอง ค่าก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดภาวะโลกร้อนจากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ทำให้เรารู้ว่า
การกินผลิตภัณฑ์เกี๊ยวกุ้ง ตราซีพี ขนาด 145 กรัม ของเรา 1 ถ้วย นอกจากจะอร่อย ได้สารอาหารมากมายแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทียบเท่ากับการช่วยปิดไฟถึง 14 ดวง เป็นเวลา 1 ชั่วโมงอีกด้วย
วันนี้เพียงเปลี่ยนจากวิธีปฏิบัติให้กลายมาเป็นวิถีชีวิต ด้วยการ “กินอย่างยั่งยืน” กินอาหารที่ผ่านการผลิตที่ดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็จะทำให้เราได้ช่วยโลกถึง 3 ครั้งต่อวัน เพียงเท่านี้คุณก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยโลก ทำให้ทุกคำ มีความหมายอย่างแท้จริง