dcsimg
ไขข้อข้องใจ….ไก่เนื้อไทยไร้สารเร่งโต
วันที่ 28 มิถุนายน 2559

จำได้ว่าเคยหยิบยกเรื่อง “ไก่เนื้อไทยไร้สารเร่งการเจริญเติบโต” มาพูดอยู่บ่อยครั้ง นั่นเพราะยังมีพ่อแม่ผู้ปกครองอีกไม่น้อยที่ห่วงใยว่าจะให้บุตรหลานรับประทานเนื้อไก่ได้หรือไม่ จะมีความปลอดภัยเพียงพอหรือเปล่า จะมีสารตกค้างทำให้ลูกหลานโตก่อนวัยไหม ด้วยสงสัยที่ไก่เนื้อปัจจุบันใช้เวลาเลี้ยงน้อยลงกว่าในอดีต…ข้อห่วงใยและสงสัยเหล่านี้นับว่าเป็นการตัดโอกาสการเข้าถึงโปรตีนคุณภาพดีอย่างเนื้อไก่ ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริง คือ “ไก่เนื้อไทยปลอดภัยได้มาตรฐานโลก”


ในฐานะของคนหนึ่งที่คร่ำหวอดในวงการสัตว์ปีกมากว่า 20 ปี ขอยืนยันว่าในกระบวนการเลี้ยงไก่เนื้อของไทยทั้งอุตสาหกรรมรวมทั้งของซีพีเอฟนั้น ไม่มีการใช้สารฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตแต่อย่างใด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสารชนิดนี้ตกค้างอยู่ในเนื้อไก่จนส่งผลให้เกิดภาวะการณ์ต่างๆที่กล่าวอ้าง


เหตุที่กล้ายืนยันเช่นนั้นเพราะเมื่อปี 2529 กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งกระทรวงฯ ที่417/2529 เรื่องเพิกถอนตำรับยาที่มีเนื้อหาใจความว่า ประกาศห้ามใช้ยาเฮ็กโซเอสตรอล (Hexoestrol) ซึ่งเป็นยาที่ใช้สำหรับตอนสัตว์ปีกและเป็นฮอร์โมนสำหรับรักษาสัตว์ซึ่งยาที่ห้ามก็คือสารเร่งการเจริญเติบโตนั่นเอง นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็มีประกาศกระทรวงฯเรื่องข้อปฏิบัติการควบคุมการใช้ยาโดยห้ามใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตและสารต้องห้ามตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกำหนดออกมาควบคุมด้วยอีกลำดับหนึ่ง…ส่วนประเทศคู่ค้าสำคัญของเนื้อไก่จากไทยอย่างสหภาพยุโรปก็มีประกาศห้ามใช้ฮอร์โมนในการเลี้ยงสัตว์


จึงเป็นไปไม่ได้ที่อุตสาหกรรมไก่เนื้อจะใช้ฮอร์โมนเร่งการเติบโต เพราะผิดทั้งกฏหมายของประเทศไทยและขัดต่อข้อบังคับของสหภาพยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มประเทศคู่ค้าสำคัญ


ส่วนกรณีที่ไก่เนื้อทุกวันนี้โตเร็วนั้น เป็นเพราะกระบวนการคัดเลือกสายพันธุ์ตามธรรมชาติที่พัฒนาโดยใช้หลัก���ารง่ายๆด้วยพื้นฐานวิชาพันธุศาสตร์ ตั้งแต่สายพันธุ์แท้สู่รุ่นทวดพันธุ์จากการประยุกต์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการแพทย์ของมนุษย์มาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ มีการใช้อุปกรณ์วัดความจุปอด (oximeter) เป็นการคัดเลือกพันธุกรรมของไก่เนื้อที่จะถ่ายทอดมายังรุ่นลูกหลานมีปอดเพื่อแลกเปลี่ยนอากาศที่แข็งแรงและเหมาะสมกับอัตราการเติบโตของร่างกาย อีกทั้งมีการใช้อุปกรณ์วัดคลื่นหัวใจและการทำงานของหัวใจ (ECG) รวมทั้งวัดระดับความดันเลือด เช่นเดียวกับในมนุษย์เพื่อที่จะได้พันธุ์ไก่ที่มีพันธุกรรมมีความแข็งแรงของหัวใจเพื่อระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้แล้วยังมีการใช้อุปกรณ์วัดความแข็งแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งของโครงสร้างกระดูกขา (Lixi Scope) และเครื่องเอ็กซเรย์ (X-Rays) เพื่อรองรับการเติบโตที่ดีอย่างสมดุลย์


เมื่อไก่ที่ได้รับการพัฒนาด้านพันธุกรรมที่ดีแล้วนำไปเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ให้อาหารที่มีโภชนาการที่ดีกับการเจริญเติบโตของไก่แต่ละช่วงวัย ภายใต้การเลี้ยงที่ถูกต้อง และมีมาตรฐานการป้องกันโรคที่ดีไก่เนื้อก็จะแสดงลักษณะภายนอกที่เห็นได้ คือมีการเติบโตรวดเร็วและมีสุขภาพดี ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือเหตุผลที่ว่าไก่เนื้อมีศักยภาพเติบโตดีตามพันธุกรรมธรรมชาติ และภาคอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทยสามารถลดระยะเวลาจากที่เคยเลี้ยง 52 วันลงมาเหลือราว 45 วัน


นอกจากเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์แล้ว กระบวนการบริหารจัดการฟาร์มที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลาก็ช่วยให้ไก่ที่เลี้ยงเติบโตได้เร็วโดยเฉพาะการเลี้ยงด้วยระบบโรงเรือนปิดปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำหรือที่เราเรียกว่าโรงเรือนอีแวป ที่สามารถควบคุมได้ตามที่ไก่ต้องการทุกอย่าง ตั้งแต่การระบายอากาศ แสงสว่าง การให้อาหารและน้ำด้วยระบบอัตโนมัติช่วยให้ไก่ไม่เครียด อีกทั้งการให้ไก่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็ทำให้ไก่สุขภาพดีโตเร็ว เหมือนกับการเลี้ยงเด็กที่ต้องมีเวลานอนหลับพักผ่อน ซึ่งการเลี้ยงในโรงเรือนปิดก็มีการกำหนดช่วงเวลานอนหลับพักผ่อนให้ไก่อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมงเช่นกัน เพราะหากไก่ได้รับความเข้มแสงสว่างที่มากและยาวนานเกินไป จะทำให้ไก่เกิดความเครียดเนื่องจากระดับสมดุลในร่างกายเปลี่ยนไปอาจทำให้ไก่ตายอย่างฉับพลันในช่วงท้ายของการเลี้ยง อันเนื่องมาจากการทำงานที่มากเกินไปของระบบหัวใจเกิดปัญหาขาเสียมากขึ้น อีกทั้งเกิดปัญหาด้านผิวหนังจากการจิกหรือการขีดข่วน


ในส่วนของอาหารไก่ที่คาดเดากันว่า อาจจะมีการใส่สารบางอย่างเข้าไปเพื่อเร่งการเจริญเติบโตนั้น ต้องบอกว่า “เป็นไปไม่ได้” เพราะมาตรฐานของอาหารสัตว์ก็ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเช่นกัน เมื่อห้ามใช้สารฮอร์โมนเร่ง ก็หมายถึงว่า จะต้องไม่มีสารฮอร์โมนเร่งในอาหารสัตว์ ส่วนที่เกรงกันว่าจะมีสารตกค้างจากการเพาะปลูก ทางผู้ผลิตอาหารสัตว์ก็มีมาตรการตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนนำมาผลิตอาหารสัตว์ เป็นไปไม่ได้ที่เราจะปล่อยให้วัตถุดิบที่จะใช้ทำเป็นอาหารมีการปนเปื้อน เพราะนั่นจะเป็นอันตรายต่อไก่และจะก่อให้เกิดผลเสียกับผู้บริโภคและธุรกิจโดยตรง...แล้วใครจะกล้าเสี่ยงไม่ได้


ส่วนข้อที่ว่ามีการฉีดยาเพื่อเร่งการเจริญเติบโตให้ไก่ตั้งแต่ยังเป็นลูกเจี๊ยบ หรือแม้แต่ฉีดเข้าตัวไก่ที่เลี้ยงอยู่ในฟาร์มนั้น นับว่าเป็นความเข้าใจผิด ทั้งนี้ไก่ทุกตัวจะต้องได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคพื้นฐานของไก่ไม่ใช่การฉีดยาเพื่อเร่งการเจริญเติบโต และปัจจุบันในฟาร์มไก่เนื้อไม่มีการจับตัวไก่เพื่อฉีดยาหรือวัคซีนใดๆและวัคซีนที่ไก่ได้รับนี้ ยืนยันว่ายังไม่เคยพบรายงานการตกค้างในเนื้อไก่แถมยังมีการการันตีโดยกรมปศุสัตว์โดยเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ท้องที่ต้องอนุญาตก่อนที่จะมีการนำไก่เข้ากระบวนการแปรรูปด้วย


เรื่องข���งการเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วนี้ ต้องมองไปที่พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ถูกต้อง ที่ทำให้เกิดภาวะโภชนาการเกิน เช่นการกินอาหารที่มีไขมันสูง ภาวะคอเลสเตอรอลสูงในเด็ก นับเป็นสาเหตุหลักของปัญหาดังนั้น พ่อแม่ควรตระหนักและให้ความสนใจกับเรื่องดังกล่าวโดยหลีกเลี่ยงภาวะอ้วนในเด็ก เน้นการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารครบ 5 หมู่


หวังว่าข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดนี้ คงพอจะช่วยไขข้อข้องใจของท่านผู้ปกครอง...ทำให้ไก่ที่กลายเป็นแพะมานานได้พ้นข้อกล่าวหาเสียที